พระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิ(ปางปราบพญาชมพูบดี)

ความน่ารักของลูกหลานในยามปฏิบัติธรรม

มือพาไป

กระผม วัชรพงศ์ สายทิพย์วดี ขอกราบสักการะบูชาพระคุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ ตลอดจนท่านผู้มีพระคุณทุกๆ ท่าน ผมตระหนักอยู่เสมอว่า "มนุษย์เรา ไม่ว่าจะยากดีมีจน สูงต่ำดำขาว ทุกคนล้วนหนีกรรมไม่พ้น" พระเดชพระคุณหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านได้ประทานเมตตาแก่ผมอย่างมหาศาล (แม้ท่านจะละสังขารแล้วก็ตาม) ผมระลึกได้ด้วยสติปัญญาอันน้อยนิด ชีวิตผมผ่านพ้นอุปสรรคมาไม่ใช่น้อย ทั้งการรับราชการ ทั้งชีวิตส่วนตัว ทั้งส่วนครอบครัว ญาติพี่น้อง เพียงผมได้อ่านเว็บที่คณะลูกศิษย์หลวงปู่ได้ร่วมกันจัดทำเผยแพร่คำสอน ผมก็ได้รับสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตเป็นลำดับ ที่เห็นชัดที่สุดก็คือ "สติในการควบคุมอารมณ์" ผมเชื่อว่า ชั่วชีวิตเรา นอกจากการได้พบพระแท้ นับถือท่านเป็นครูบาอาจารย์แล้ว ความเป็นมงคลที่สำคัญอีกประการก็คือ การปฏิบัติตามแนวทางที่ครูบาอาจารย์ท่านได้เมตตาสั่งสอนแนะนำ แต่ที่ยิ่งใหญ่ ใหญ่ยิ่งเหนือสิ่งอื่นใด ก็คือ พ่อ แม่ ของเราไงล่ะครับ พระพุทธองค์ท่านยังทรงยอมรับ ดังปรากฎ คำบาลีที่แปลได้ใจความว่า "มิดามารดาเป็นพรหมของบุตร" "วันนี้ท่านบอกรักพ่อแม่ของท่านหรือยัง"?
๒๙ ก.ค.๕๑,๑๑๕๙
วันนี้ผมเดินทางมาพบคุณหมอที่โรงพยาบาลโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เรามีเวลาและโอกาสสำหรับการสนทนาธรรมมากพอสมควร แต่เด่ยวผมขอเวลาไปตรวจอัลต้ราซาวส์ตับก่อน แล้วค่อยมาพบกันครับ
๓๐ ก.ค.๕๑ ผมรับการตรวจอัลตร้าซาวด์เรียบร้อบแล้วเมื่อ ๒๙ ก.ค. เวลาประมาณ ๑๒๓๐ ผลการตรวจคุณหมอยืนยันว่าเป็นปกติดีทุกอย่าง แต่นั่นไม่ใช่เนื้อหาที่ผมอยากเล่าให้ฟังในวันนี้ เรื่องสำคัญในวันนี้ก็คือ เมื่อเวลาประมาณเที่ยงวันนี้ มีพนักงานราชการท่านหนึ่งมาบอกผมว่า เขาได้รับการแจ้งเตือนให้มาบอกผมว่าให้ผมกระทำสิ่งต่อไปนี้แล้วชีวิตจะดีขึ้น
๑. ถวายดาบ ๒ เล่ม ต่อเจ้าพ่อขุนด่าน
๒. ถวายดอกกุหลาบสีชมพู ๑๙ ดอก ที่ ศาลาวงกลม
ผมพยายามเร่งรัดภาระต่างๆ ทั้งงานนอกหน่วย ในหน่วย งานประชุม งานธุรการ และตั้งใจว่าจะดำเนินการถวายให้แล้วเสร็จภายในเย็นนี้ แล้วโอกาสต่อไปจะนำมาเล่าสู่กันฟังอีกครับ ....บ๊าย..บาย....
๓๑ ก.ค.๕๑ วันนี้ ผมเดินทางไป กทม.แต่เช้า ไปพบญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ท่านเคยช่วยเหลือผมมาหลายครั้ง ทั้งงานราชการ งานส่วนตัว ห่วงใยผมมาตลอด แต่ติดที่ว่าท่านเป็นคนดุ ผมเคยได้ยินมาว่า "เสือดุให้เข้าใกล้" นั่นเป็นอุบายธรรมที่ชาญฉลาดมากเช่นเรารู้ว่าผู้ใหญ่คนนั้นดุ เราหมั่นเข้าใกล้ สิ่งที่เราจะได้คือ
๑)ความกล้าหาญ
๒)ความคุ้นเคย
๓)ความรู้ ประสพการณ์
๔)ข้อแนะนำที่ดีมีประโยชน์
๕)แนวคิดสำหรับการปฏิบัติตัวของท่าน ตลอดจนผลที่ได้รับ
ผมรับราชการมากว่า ๒๔ ปี ผมเห็นผู้บังคับบัญชา เพื่อร่วมงาน และ ลูกน้องมาไม่ใช่น้อย สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมได้เก็บเกี่ยวข้อมูลที่สำคัญที่สุดในการกดำเนินชีวิต นั่นคือ "ข้อมูลมนุษย์" แต่ตอนนี้ได้เวลาไปร่วมรับประทานอาหารกับผู้บังคับบัญชาแล้ว โอกาสหน้าค่อยมาโม้ต่อครับ สาธุ...
๑๒ ส.ค.๕๑
วันนี้ผมตื่นแต่เช้า ประมาณ ตีห้า เข้าห้องน้ำเรียบร้อย ตั้งใจจะออกไปวิ่ง แต่ฝนตกปรอยๆ แหมไอ้เรามันก็มีอายุแล้ว งานก็มาก ถ้าโดนฝนเดี๋ยวจะเป็นหวัด ก็จะยุ่งกันใหญ่ ก็เลยตัดสินใจดูโทรทัศน์รายงานธรรมะ ฟังหลวงปู่พุทธอิสระ จนจบรายการ ดูกีฬานิดหน่อย อาบน้ำ แต่งตัวหล่อ แล้วไปตลาด ซื้ออาหารเป็นข้าวเหนียวหมูย่างกับขนมปังทาเนยใส่บาตรพระ แต่ก็ไม่ลืมซื้อมาเพิ่มเติมให้คนในบ้านได้กิน(วันนี้จะไปสักการะกรมหลวงชุมพระเขตอุดมศักดิ์ที่สัตหีบ) โทรศัพท์ถึงแม่คุยกับท่านสักครู่ ทานก็อวยพรด้วยความเมตตา เชื่อไหมครับว่าทุกครั้งที่โทร.คุยกับแม่ เมื่อวางหูผมจะกราบโทรศัพท์ทุกครั้ง ขออนุญาตเตรียมตัวเดินทางครับ ก่อนไปมีสาระมาฝาก ลองอ่านกันดูครับ เป็นของเก่าที่ทันสมัยใหม่เสมอ
สิ่งที่ประกันไม่ได้ ๔ ประการ
พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า ภิกษุทั้งหลาย! สิ่ง ๔ ประการนี้ใคร ๆ จะประกัน มิได้เลยคือ
๑.ประกันสิ่งที่จะต้องแก่ หรือทรุดโทรมเป็นธรรมดามิให้แก่หรือทรุดโทรม
๒.ประกันสิ่งที่มีความเจ็บป่วยเป็นธรรมดา มิให้มีการเจ็บป่วย
๓.ประกันสิ่งที่มีความตายเป็นธรรมดามิให้ตาย
๔.ประกันกรรมชั่วที่บุคคลทำแล้วมิให้ให้ผลเป็นความทุกข์ ความทุรน ทุราย
(อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต ๒๑/๒๓๒)